คิดถึงโมเมนต์ตอนไปเที่ยวญี่ปุ่นใจจะขาดแล้ววว

.

ญี่ปุ่นเนี่ย ขึ้นชื่อตั้งหลายเรื่องไม่ว่าจะเป็น ช้อปปิ้ง, วัฒนธรรม , อาหาร, เมืองสวยงาม ธรรมชาติเพียบพร้อม ครบครันได้ประเทศเดียว!
วันนี้พี่ Bond ก็เลยจะพาไปดู 10 สถานที่ท่องเที่ยวสายธรรมชาติที่ญี่ปุ่น มีหลายที่ที่คนอาจจะไม่รู้จักหรืออาจจะรู้จักแล้ว
แต่รับรองว่าสถานที่เฟี้ยวๆ สวยๆ แหวกแนวเหล่านี้ควรค่าแก่การไปเยือนสุดๆ!

อย่างที่บอกไป การไปเยือนญี่ปุ่นเนี่ย ได้ครบจบทุกองค์ประกอบเลย ไม่ว่าจะช้อปปิ้ง, ธรรมชาติ บ้านเมือง อาหาร
โอ้ย เยอะแยะไปหมด แถมที่สำคัญ บินไม่นาน วีซ่าไม่ต้องขอ ราคาไม่แพงมาก แต่คุ้มค่าสุดๆไปเลย

นี่สถานการณ์ก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ คิดว่าอีกไม่นานเราน่าจะได้ไปเที่ยวญี่ปุ่นด้วยกันอีกแน่นอน
นี่พี่ Bond คิดถึงญี่ปุ่นมากกกอยากไปใส่ชุดยูกาตะ เดินกินคิบิดังโงะ สวยๆท่ามกลางอากาศเย็นๆแล้ว

พร้อมแล้วก็ไปดูกันเลยว่า 10 ที่จะมีที่ไหนบ้างครับบบ!

Takachiho Gorge

หนึ่งในเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติที่ควรค่าแก่การไปเยือนที่สุดแห่งหนึ่ง ที่เกิดขึ้นมาจากปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ
จากร่องรอยการระเบิดของภูเขาไฟ Aso และ ลาวาไหลลงกัดเซาะก่อเกิดเป็นทางสายน้ำ ที่ไหลคดเคี้ยวไปตามทางเดิน trekking
เส้นทางเดินตามสายน้ำที่นี่สวยงามมาก เพราะมีองค์ประกอบธรรมชาติ ที่มีความเขียวขจีและชุ่มชื้นวิวทิวทัศน์แปลกตาเหมือนอยู่ต่างโลก
อีกทั้งยังมีน้ำตกยิ่งใหญ่สวยงามอย่าง Manai no Taki ซึ่งถูกยกย่องเป็น 1 ใน 100 น้ำตกที่สวยที่สุดในญี่ปุ่นด้วยนะคร้าบบบ

ที่เจ๋งสุดๆ คือ เมื่อเราเดินมาจนสุดทาง เราจะพบกับร้านอาหารที่เป็นซิกเนเจอร์ของที่นี่ นั่นก็คือ Nagashi-somen
เส้นโซเมนนุ่มๆที่ไหลมาตามกระบอกไม้ไผ่ ให้เราได้คีบทานกันตรงหน้า เหมือนที่เราเห็นกันในมังงะเลยล่ะครับบบ

เนินทรายต็อตโตริ (Tottori Sand Dunes)

เนินทรายต็อตโตริตั้งอยู่ห่างจากใจกลางเมืองต็อตโต ไม่ใกล้ไม่ไกลแค่ประมาณ 16 กิโลเมตร
ซึ่งอยู่แถบๆเลียบชายฝั่งทะเลญี่ปุ่น โดยตั้งอยู่ใน Sanin Kaigan National Park

ที่นี่นับว่าเป็นที่ที่ห้ามพลาดอีกอย่าง เมื่อได้มาเที่ยวต๊อตโตริเลยล่ะครับ เพราะความที่เป็นเนินทรายที่ใหญ่มากกก
สูงกว่า 50 เมตรกว่าเห็นจะได้ และมีความกว้างถึง 2 กิโลเมตร แถมเนินทรายนี้มีมากว่า 1,000 ปี เพราะปรากฎการณ์ทางธรรมชาติล้วนๆ
ไม่ได้มีมนุษย์เข้าไปประดิษฐ์ประดอยมันขึ้นมา นั่นจึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมเวลาเราไปที่เนินทรายแห่งนี้ภูมิทัศน์มันถึงเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
เพราะธรรมชาติคาดเดาไม่ได้นั่นเองไงล่ะครับ อิอิ

น้ำวนนารูโตะ(Naruto Whirlpools)

คาถากระสุนวงจักรรร!!!! แฮ้ นั่นมันคนละนารุโตะ!!! เจ้าน้ำวนสุดแสนอลังการนี้ เกิดขึ้นตามแนวชายฝั่งทะเลของช่องแคบนารูโตะ
จึงก่อให้เกิดประมาณน้ำจำนวนมหาศาลถูกเคลื่อนย้ายระหว่างทะเล Seto Inland Sea กับมหาสมุทรแปซิฟิกระหว่างระดับน้ำสูงและต่ำ
ตามความเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำจะเกิดขึ้นทุกๆ 6 ชั่วโมงซึ่งจะพบได้ในช่วงเช้า 1 ครั้ง และช่วงบ่ายอีก 1 ครั้ง ครั้งละ 1-2 ชั่วโมง
ขนาดของน้ำวนจะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับความรุนแรงของกระแสน้ำ แต่ที่แน่ๆ คือ น้ำวนพวกนี้มันโครต Unseen เลย ทั้งแปลก น่ากลัว สวยงามในเวลาเดียวกัน
โดยเพื่อนๆสามารถชมได้ด้วยการไปกับบริษัทเรือ ที่จะมีบริการพาออกไปชมน้ำวนอย่างปลอดภัยได้มาตราฐานได้เลยล่ะครับ

ภูเขาไฟอะโซะ Aso Mount

ภูเขาไฟอะโซะ ตั้งอยู่ในใจกลางเกาะคิวชู ถือได้ว่าเป็นภูเขาที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของภูมิภาคคิวชู
และยังเป็นหนึ่งในภูเขาไฟที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกเลยเลยนะครับ!!

การมาเที่ยวที่นี่อาจจะต้องระมัดระวังกันหน่อย เพราะภูเขาไฟแห่งนี้ยังมีไฟที่ยังไม่ดับตรงกลางของปล่องภูเขาไฟบน
ซึ่งบนยอดเขาจะมีอยู่หลายปล่องด้วยกันเลยนะ ถือว่าอลังการมากกกกก ซึ่งหนึ่งในนั้น จะมีปากปล่องที่มีชื่อว่า นาคาดาเกะ
ซึ่งเป็นปากปล่องภูเขาไฟที่สามารถเดินทางไปถึงได้ง่ายหน่อย เพราะมีการขนส่งสาธารณะโดยเดินขึ้นทางถนนหรือขึ้นกระเช้าไฟฟ้าไปก็ได้นะครับ

บริเวณรอบๆภูเขาไฟอะโซะบอกเลยว่าวิวดีงามพระราม 8 มากๆ เนื่องจากมีเมืองชนบทเล็กๆและนาข้าว กระจายตัวกันอยู่ตามรอบนอกของภูเขาอะโซะ
บรรยากาศจะเป็นแนวธรรมชาติแบบแถบชนบทแบบญี่ปุ่นแท้ๆดั้งเดิม วิถีชีวิตและวัฒนธรรมแบบดั้งเดิมกะหาดูได้ที่นี่เลยคร้าบ

พี่ Bond แนะนำ *** ควรเช็คสถานะของปล่องภูเขาไฟก่อนมาทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัยของตัวเพื่อนๆเองนะครับ
และผู้ที่เป็นโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจความหลีกเลี่ยงก็จะดีนะครับบบบ

Akiyoshido Cave

ถ้ำหินย้อยที่มีอายุอานามมายาวนานกว่า 300 ล้านปี!!! อ่านไม่ผิด 300 ล้านปีครับ ตั้งแต่ไดโนเสาร์เดินเพ่นพ่านนั่นแหละ!!
ถ้ำนี้ตั้งอยู่ใน Akiyoshidai Plateau Quasi-National Park ซึ่งเป็นพื้นที่กึ่งอุทยานแห่งชาติ ตั้งอยู่บนที่ราบสูงหินปูนที่มีความสูงต่ำไม่สม่ำเสมอ
ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงโด่งดังในญี่ปุ่นมาก โดยถ้ำแห่งนี้มีความยาวประมาณ 10 ก.ม. มีเพดานสูงสุดถึง 80 ม. เส้นทางเดินเที่ยวซึ่งกินพื้นที่ของถ้ำ
ประมาณ 1 ก.ม. มีอุณหภูมิ 17°C เย็นสบายตลอดทั้งปี เหมาะแก่การมาเดิน trekking ดูความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติและ ประวัติศาสตร์มากครับ

 

หุบเขานรกจิโงคุดานิ(Jigokudani noboribetsu)

หรือมีอีกชื่อหนึ่งที่เป็นฉายาที่ได้รับการขนานนามว่า “Hell Valley”ตั้งอยู่เหนือย่านบ่อน้ำร้อนโนโบริเบทสึที่จังหวัดฮอกไกโด
ที่นี่เรียกได้ว่าเป็นสถานที่ที่มีความงดงาม ยิ่งใหญ่มากๆ ด้วยน้ำร้อนในลำธารของหุบเขาก็มีแร่กำมะถันจากภูเขาไฟอุณหภูมิกว่า 50 องศา
เล็กใหญ่ตลอดทาง สามรถแช่เท้าได้ ชมความงามของธรรมชาติ ภูเขา ต้นไม้ ลำธาร เปรียบเสมือนของขวัญจากโลกใบนี้เลยล่ะครับ ยิ่งถ้ามาช่วงเดือนตุลาคม
ที่นี่จะพีคคคมากกกก เพราะต้นไม้ทั้งหมดจะเปลี่ยนสีเป็นสีแดงๆ ส้มๆ ตลอดพื้นที่ ไม่ให้เรียกสวย จะให้เรียกอะไรละเนี่ยย

 

อ่าวคาริบะ Kabira bay

อ่าวคาบิระเป็นอ่าวที่อยู่บนเกาะอิชิกากิ ที่เจ๋งคือ ที่นี่อุดมไปด้วยแนวปะการังอันอุดมสมบูรณ์และปลาเขตร้อนสีสรรสวยงามมากมาย
จนได้รับคัดเลือกให้ได้รับ 3 ดาว จาก Michelin Green Guide น้ำทะเลสีครามสวยใส ยิ่งเวลาโดนแดดจากแสงอาทิตย์สีน้ำงเนจะกลายเป็นสีเขียว
นับเป็นความ unseen เลยล่ะครับ จนมีศิลปินท่านหนึ่งนามว่า คุณ Taro Okamoto กล่าวไว้ว่า ไม่ว่าช่างภาพที่ไหนมาที่นี่ก็ไม่มีทางถ่ายรูปให้สวยได้หรอก
เพราะความมหัศจรรย์ของธรรมชาติมันต้องมาดูด้วยตา!!!

แต่น่าเสียดายที่เราลงไปเล่นน้ไม่ได้ เพราะน้ำทะเลที่เชี่ยวเหลือเกิน แต่ยังสามารถนั่งเรือท้องกระจกไปส่องปลาทะเลปละปะการังได้นะ เออออออ

 

เกาะยาคูชิม่า(Yakushima)

เกาะยาคูชิม่าเป็นเกาะขนาดใหญ่ที่มีลักษณะเป็นป่าดงดิบชื้น และภูเขาสวยงามอยู่บนเกาะ โดยตั้งอยู่ทางใต้ของชายฝั่งคาโกชิม่า
และยังเป็นป่าที่มีแนวต้นสนโบราณอายุยืนยาวหลายพันปีเอาไว้มากที่สุด และหนึ่งในนั้นมีต้นสนอายุกว่า 7,000 ปี!!
ชื่อว่าโจม่อนสุกิที่คาดว่าจะเป็นต้นสนที่อายุมากที่สุดในญี่ปุ่น ลองไปหากันดูนะครับ ว่าต้นไหน

ภายในป่าจะมีสีเขียวสดสบายตาเกือบตลอดปี มีความชื้นสูง และฝนตกเกือบตลอดปีเช่นกัน แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ

การท่องเที่ยวเกาะยาคูชิม่า นั้นท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี โดยแวะสถานที่ท่องเที่ยวระหว่างทางเอา โดยมีระยะรอบเกาะประมาณ 100 กิโลเมตรเองครับ
พี่ Bond แนะนำเลย สำหรับสายฮิปสเตอร์ หรือใครที่รักธรรมชาติและความสงบควรมาอย่างยิ่ง ด้วยวิวที่สวยงามตลอดทางทำให้ ยาคูชิม่า
ได้รับลงทะเบียนเป็นมรดกโลก แถมระหว่างทางอาจจะพบสัตว์ป่าหลายชนิดโดยเฉพาะลิงและกวาง

 

น้ำตกนาชิ (Nachi Waterfall)

น้ำตกนาชิอันแสนน่ารักและสวยงาม ตั้งอยู่ที่เมือง Katsura จังหวัด Wakayama โทยน้ำตกนาชิเป็นน้ำตกที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น และสวยติดอันดับต้นๆของประเทศเลยนะครับโดยมีความสูง 133 เมตร ลึก 10 เมตร สามารถชมพร้อมวิวทิวทัศน์แจ่มๆ จากเจดีย์สีแดงสด ที่มีชื่อว่า Sanjunoto Pagoda ที่เห็นบ่อยๆ ตามเวปไซต์ญี่ปุ่น
หรือ ปฏิทิน หรือ ใบโปรโมทการท่องเที่ยวญี่ปุ่น เป็นอีกหนึ่งมรดกโลกที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การ UNESCO ควรค่าแก่การมาเยือนสุดๆ

Mount Fuji (Fuji-san)

แทบไม่ต้องอธิบายอะไรมากกับภูเขาไฟฟูจิ สัญลักษณ์ของญี่ปุ่น ด้วยความสูงมากถึง 3,776 เมตร ทำให้กลายเป็นภูเขาไฟที่มีความสูงอันดับหนึ่งของญี่ปุ่นอย่างไม่ต้องสงสัย และโครตจะสวยงามที่สุดเป็นอันดับโลก ซึ่งไม่ว่าใครหากมาเยือนญี่ปุ่น ทุกคนล้วนหวังว่าจะได้ยลความงดงามของภูเขาไฟฟูจิซักครั้ง ซึ่งการชมภูเขาไฟฟูจินั้นสามารถชมได้จากหลายๆแห่ง โดยแต่ละโลเคชั่นจะให้ฟิลลิ่งแตกต่างกันไป เดี๋ยวครั้งต่อไปพี่ Bond จะพาไปดูจุดชมภูเขาไฟฟูจิแจ่มๆกันนะครับ

...